ไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น พร้อมเดินหน้าสู่ โลจิสติกส์สีเขียว ( Green Logistics) ลดโลกร้อน
ที่รร.รอยัลปริ๊นเซส ทางสมาคมขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ไทย ร่วมกับ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ได้จัดอบรมเชิงปฎิบัติการหลักสูตรการบริหารจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รุ่นที่ 2 กิจกรรมส่งเสริมการบริหารจัดการโลจิสติกส์สีเขียว( Green Logistics)
โครงการดังกล่าว มีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการมีความเข้าใจในการบริหารจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนสีเขียว (Green Logistics & Supply Chain Management และสามารถนำไปประยุกต์ ใช้ในการดำเนินกิจการของตนเองได้ นอกจากนี้ ยังสามารถนำไปพัฒนาและออกแบบแนวทางการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกิจกรรมโลจิสติกส์
โดยดร.พีระ อุดมกิจสกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท ไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น จำกัด (ปณด) ร่วมเป็นวิทยากรบรรยายในหัวข้อ “นโยบายเพื่อลดคาร์บอนในกลุ่มขนส่ง” กล่าวว่า ในฐานะเป็นหน่วยงานภาครัฐที่ให้บริการด้านคลังสินค้าและขนส่งโลจิสติกส์อย่างครบวงจร มีเป้าหมายชัดเจนเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ที่พร้อมเดินหน้าสู่การเป็น”โลจิสติกส์สีเขียว “(Green Logistics) อย่างยั่งยืน
ปัจจุบันไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น มีรถขนส่งตั้งแต่ขนาด 4 ล้อ ไปจนถึง 10 ล้อเกือบ1,000 คัน จากปัญหาส่งค่าขนส่งด้านโลจิติกส์ มีมากถึงร้อยละ13.8 ของGDP ทางไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น จึงได้จัดทำแผนบริหารการจัดการขนส่ง รวมถึงการนำเทคโนโลยี AI (Artificial Intelligence ) มาใช้วางแผนระบบเส้นทางร่วมกับSWAT Mobility จากสิงคโปร์ เพื่อประหยัดต้นทุนได้สูงสุดนอกจากนี้ยังจัดทำแผนบริหารจัดการระวางว่างร่วมกับบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด(ปณท) และพันธมิตร ทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อลดการสูญเสียที่เกิดจากรถเที่ยวเปล่า (Backhaul)โดยเฉพาะขากลับ ลดต้นทุนการสิ้นเปลืองได้มากกว่า50 %
พร้อมทั้ง มีการดูแลรักษารถขนส่งตามระยะทาง รถขนส่งอายุงานไม่เกิน 5 ปี รวมถึงการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงตามมาตรฐานรักษาสิ่งแวดล้อมของยูโร และศึกษาเรื่องการนำรถไฟฟ้ามาใช้ทดแทนรถที่ใช้น้ำมัน ซึ่งขณะนี้ได้ทดลองกับรถขนส่ง 4 ล้อไปแล้ว และอยู่ระหว่างกำลังทดลองกับรถ 6 ล้อ ซึ่งข้อมูลจากสำนักนโยบายและแผนพลังงานจะสามารถลดต้นทุน68 % เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในเรื่องการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกจากภาคการขนส่ง โดยมีเป้าหมายลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทยและทั่วโลกในภาคขนส่งให้ได้ร้อยละ 20-25


